บทที่2 เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

 บทที่ 2

เอกสาร และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

         ผู้ช่วยศาสตราจารย์นภดล สังวาลเพ็ชร กล่าวว่า “กระถางต้นไม้จากกากกาแฟ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบขึ้นมา เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาวัสดุเหลือทิ้งจากธุรกิจร้านกาแฟ อุตสาหกรรมการผลิตกาแฟผงกึ่งสำเร็จรูป และการบริโภคกาแฟภายในครัวเรือน โดยนำมาทดลองหาส่วนผสม เพื่อขึ้นรูปเป็นกระถางต้นไม้ ด้วยแนวคิดที่ว่า BCG Economy (Bio-Circular-Green Economy)ที่ มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรชีวภาพเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน และการคำนึงถึงการนำวัสดุต่างๆ กลับมาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุด ภายใต้เศรษฐกิจสีเขียวซึ่ง เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจที่พัฒนาควบคู่ไปกับ ด้านสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อม” 
      ผู้ช่วยศาสตราจารย์นภดล กล่าวต่อว่า “วัสดุที่ใช้เป็นส่วนผสม ประกอบด้วย กากกาแฟ ซึ่งเป็นวัสดุเหลือทิ้ง ปูนขาว และชัน ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ จึงมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 100%” “นอกจากนี้ ด้วยคุณสมบัติของปูนขาวที่มีความเป็นด่าง จะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อรา รวมถึงชันที่มีคุณสมบัติ ช่วยป้องกันมดแมลงได้ และจากการทดสอบส่วนผสมที่ใช้ มีค่าความเป็นกรดด่าง ที่ pH 6.2 ซึ่งเทียบเท่ากับค่า pH ของดินที่เหมาะสมกับการใช้ปลูกต้นไม้ ที่มีค่า pH ระหว่าง 5.5-6.5 อย่างมาก” จากคุณสมบัติของส่วนผสมดังกล่าว ทำให้กระถางต้นไม้จากกากกาแฟ นอกจากเป็นการนำวัสดุเหลือทิ้ง มาแปรรูปเพื่อใช้เป็นภาชนะสำหรับปลูกต้นไม้ได้แล้ว กระถางที่ได้ยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกัน การเกิดเชื้อราในดิน และสามารถป้องกันแมลงที่จะมาทำลายต้นไม้ได้อีกด้วย


      พิมพ์เพ็ญ พระเฉลิมพงวศ์  ได้ให้นิยามความหมายของแป้งมันสำปะหลังว่า เป็นแป้งที่ได้มาจากมันสำปะหลัง ลักษณะแป้งมีสีขาว เนื้อเนียนลื่นเป็นมัน เมื่อทำให้สุกด้วยการกวนกับน้ำไฟอ่อนปานกลาง แป้งจะละลายง่าย สุกง่าย แป้งเหนียวติดภาชนะหนืดขึ้นเรื่อยๆไม่มีการรวมตัวเป็นก้อน เหนียวเป็นใย ติดกันหมด เนื้อแป้งเป็นใสเงา พอเย็นแล้วตะติดเป็นก้อนเหนียว ติดภาชนะ ใช้ทำลอดช่องสิงคโปร์ ครองแครงแก้ว เป็นต้น และยังใช้ในอุสาหกรรมอื่นๆ เช่นอุสาหกรรมกระดาษ อุสาหกรรมกาว 


    รพีพรรณ กองตูม กล่าวถึง กากกาแฟ ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเหลือทิ้งประเภทหนึ่งที่ได้มาจากอุตสาหกรรมผลิตกาแฟสำเร็จรูปและจากร้านกาแฟ กากกาแฟมีสารสำคัญหลายชนิดได้แก่ โพลีแซคคาไรด์ กรดไขมัน โปรตีน คาเฟอีน สารประกอบฟินอล และแร่ธาตุต่างๆ  ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางในการพัฒนาด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์ส่งเสริมสุขภาพ นอกจากนี้กากกาแฟที่ผ่านการปรับปรุงทางกายภาพหรือเปลี่ยนแปลง โครงสร้างทางเคมีสามารถนำไปใช้ประโยชน์เพื่อเป็นเชื้อเพลิง วัสดุปรับปรุงดินสำหรับการเพาะปลูก และเป็นวัสดุดูดชับเพื่อกำจัดสิ่งเจือปนในตัวอย่างโดยเฉพาะทางด้านสิ่งแวดล้อม ดังนั้นจึงทำให้การศึกษาวิจัยเกี่ยวกับกากกาแฟยังคงเป็นที่สนใจและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเน้นการพัฒนาเทคนิค วิธีการ การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเกิดการใช้ประโยชน์จากกากกาแฟเหลือทิ้งเหล่านี้ให้มากที่สุด


   ณรงค์ โฉมเฉลา ได้กล่าวถึงรายละเอียดของกากมะพร้าวและใยมะพร้าวดังนี้ มะพร้าวเป็นพืชตระกูลปาล์ม ซึ่งเส้นใยแข็งที่ได้มาจากกามะพร้าวจะเรียกว่าง “ใยมะพร้าว”ด้วยเส้นใยที่มีลักษณะเฉพาะทางธรรมชาติป็นเส้นใยที่หยุ่นเหนียวแข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติสามารถทำลายได้ง่าย ดังนั้นใยมะพร้าวจึกถูกนำมาใช้ประโยชน์ในเชิงอุสาหกรรมรวมทั้งเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน


    บุญชู ปารมี ได้กล่าวว่า ในปัจจุบันได้มีการระบาดของโรคไหม้ข้าว โรคไหม้ข้าวนั้นเกิดจากเชื้อรา ที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้นาข้าวของชาวนาได้รับความเสียหาย ซึ่งเกิดขึ้นได้ในทุกระยะของข้าว เกษตรกรก็แก้ไขปัญหาด้วยสารเคมีบ้างแต่บางครั้งก็แก้ไขไม่ทันทำให้ข้าวได้รับผลกระทบอย่างมาก ต้องหาวิธีแก้ไขและป้องกันตั้งแต่เริ่มทำการปลูกข้าว และ คอยดูแลข้าวในแปลงทุกระยะ จึงได้แนะนำสูตรการป้องกันและกำจัดโรคไหม้ข้าว โดยการนำปูนขาวมาผสมกับน้ำหมักทิ้งไว้และนำไปฉีดพ่นเป็นการป้องกันโรคไหม้ข้าวได้ การนำปูนขาวมาใช้จึงช่วยลดการเกิดโรคไหม้ข้าวและป้องกันการเกิด โรคไหม้ข้าวได้เป็นอย่างดี


     

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ

บทที่ 1 บทนำ

บทที่ 5 สรุป และอภิปรายผล